วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2562

หุ่นยนต์ตัวที่1 : ไม่ให้จะขโมยแล้วนะ!

20:05น.

"โหห~คนเยอะมากเว่อร์"ผมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในงานของนักธุรกิจที่พ่อร่วมหุ้นอยู่ด้วย
ข้างในมันใหญ่โตและสวยงามมากและที่สำคัญคนเยอะอย่างกับอะไรดีเผลอๆถ้าผมหลงเข้าไปในกลุ่มคนพวกนั้นมีหวังคงถูกเหยียบตายคาเท้าแน่ๆอ่ะ

บรึ๋ยยย..พูดแล้วหยองเลยอ่ะ

"เก็บอาการหน่อยก็ดีนะพ่อว่า"ผมหันไปมองผู้ชายวัยกลางคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของผมที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างๆก็เบ้ปากใส่ทันที

เหอะ! บอกให้เขาเก็บอาการทีตัวเองนี่แขนขาสั่นอย่างกับเจ้าเข้า

"พ่อนั่นแหล่ะที่ต้องเก็บอาการ!"

"หือ?..พ่อหรอ"พ่อเอียงคอถามผมอย่างใสซื่ิอ

ดูทำหน้าเข้า..มันน่าจับตบสักทีสองที!

"เฮ้อ!"ผมถอนหายใจออกมาอย่างรำคารก่อนจะเดินหนีพ่อไปทางอื่นแทนแต่ก็ไม่วายเดินตามผมมาจนได้..

"เป็นไรหรอ?"พ่อถามผมอย่างสงสัยแต่หน้านี่ไม่ได้แสดงความสงสัยเลยแม้แต่นิดเดียวมีแต่ความกวนล้วนๆ

"รำคารคนแก่แถวนี้!"ผมว่าอย่างรำคารใจเมื่อพ่อยังคงทำหน้ากวนส้นอยู่อย่างนั้น

สาบานเลยว่าถ้าไม่ใช่พ่อแท้ๆผมคงกระโดดถีบยอดหน้าไปแล้ว..

"ฮ่าๆดุจังเลยนะ"พ่อหัวเราะออกมาน้อยๆก่อนจะเอามือมากอดคอผมเอาไว้แน่นก่อนจะพาผมเดินไปที่ไหนสักที่

"ไปไหนเนี่ยพ่อ?"

"ไม่รู้เดินไปเรืี่อยๆ"พ่อบอกแค่นั้นก็จะพาผมเดินไปเรื่อยๆอย่างที่ตนว่า

ตลอดทางที่เดินมานั้นผมหันไปมองรอบๆงานก็เจอเข้ากับสายตาของเหล่าสาวๆทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ที่มองมาทางพ่อของผมอย่างหื่นกระหาย

จริงอยู่ที่พ่อผมอายุปาเข้าไปสี่สิบกว่าแล้วแต่หน้าตาของเขานั้นไม่ได้แก่ลงเลยแม้แต่น้อยถ้าบอกว่าเพิ่งสามสิบต้นๆก็เชืี่ออ่ะเอาจริง

"ทำอะไรของแก?"พ่อถามผมเมื่อเห็นว่าผมเอามือที่เขากอดคอผมมาไว้ที่เอวของผมแทน

"ยัยผีปอปพวกนั้นมันจ้องจะงาบพ่ออยู่นะไม่รู้รึไง"ผมบอกพ่อส่วนพ่อเองที่ได้ยินในสิ่งที่ผมบอกก็หันไปมองรอบๆตัวเองทันทีก่อนจะส่งยิ้มโปรยสเน่ห์ใส่ยัยผีปอปพวกนั้นไปหนึ่งที

"หึๆ..ก็คนมันหล่ออ่ะนะ"ผมแทบจะอ้วกออกมาทันทีที่พ่อพูดจบ..

เหอะๆ หล่อตายแหล่ะโธ่วววผมอ่ะหล่อกว่าพ่อตั้งเย้อะ!(รึเปล่าว้ะ)

"ทำหน้าอย่างงั้นหมายความว่าไง"พ่อถามผมพร้อมกับยกมือขึ้นมาขยี้ผมของผมอย่างหมั่นใส้จนมันยุ่งไม่เป็นทรง

"โอ้ยพ่อ!ผมยุ่งหมดแล้ว"ผมหันไปมองพ่อตาเขม็งก่อนจะจัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทาง

"ทำอะไรของพ่อเนี่ยถ้าผมหมดหล่อจะทำยังไง"พ่อหันมามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาโดยไม่สนใจคนรอบข้างเลยแม้แต่น้อย

"ฮ่าๆๆๆโอ๊ยขำว่ะ"เอาเข้าไปหัวเราะให้พอ..กลับบ้านไปเมื่อไหร่ผมสาบานได้เลยว่าพ่อไม่รอดแน่คอยดูเถ้อะ!!

"หัวเราะให้พอนะพ่อ..กลับบ้านไปผมฟ้องควีนแน่ว่าพ่อยิ้มให้ผู้หญิง!"

กึก!

โอ๊ย!ฮ่าๆๆขำหน้าพ่อว่ะพอพูดถึงควีนนี่อ้าปากค้างกลางอากาศเลยมั้ยล่ะฮ่าๆไม่ไหวๆขอขำหน่อยเถอะ

"ฮ่าๆๆเหวอเลยดิพ่อ"

"แกห้ามบอกควีนเด็ดขาดเลยนะ!"พ่อหันมาบอกผมหน้าโหดเหี้ยม

หูวววว กลั้วกลัววว

"ยังไงก็จะบอก!..แบร่~"ผมหันไปแลบลิ้นใส่พ่อก่อนจะออกตัววิ่งสุดชีวิตเมื่อพ่อเตรียมท่าจะยกเท้าขึ้นมาไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาเตรียมจะถีบผมนั่นล่ะฮ่าๆ

ส่วนควีนที่ผมและพ่อพูดถึงก็คือแม่ของผมเองครับ..เอาจริงๆนะผมล่ะไม่เข้าใจเลยว่าแม่เอาพ่อลงได้ไงว้ะ?

ปึก!

"อ๊ะ!"ร่างของผมล้มลงไปกองกับพื้นทันทีที่ร่างกายประทะเข้ากับใครบางคน

"โอ้!..ขอโทษนะครับคุณเป็นอะไรรึเปล่า"ผมเงยหน้าขึ้นไปมองบุคคลที่ผมเพิ่งจะวิ่งชนเขาไปเมื่อกี้นี้..

และเมื่อผมเห็นหน้าเขาแบบเต็มๆแล้วก็ถึงกับอ้าปากหวอทันที

เชี่ย! นี่มันคุณนาวินนักธุรกิจที่พ่อผมร่วมหุ้นด้วยนี่หว่า!

"เอ่อ..ไม่เป็นไรครับ"ผมบอกกับอีกฝ่ายเสียงสั่นนิดๆก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืนโดยมีคุณนาวินเดินเข้ามาช่วยพยุงด้วยอีกที

"ขอบคุณครับ"

"ครับ..ไม่เป็นไร"อีกฝ่ายยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตรส่วนผมเองที่กำลังเอ๋อๆอยู่ก็ส่งยิ้มกลับไปให้อีกฝ่ายเช่นกัน

"อยู่นี่เองพ่อหาตั้งนาน!...โอ๊ะ!คุณนาวิน"ผมหันไปมองพ่อที่วิ่งมาหาผมด้วยสีหน้าโล่งอกก่อนจะเบิกตากว้างนิดหน่อยเมื่อเห็นคุณนาวิน

"สวัสดีครับคุณคิง"คุณนาวินยกมือไหว้พ่อผมอย่างสุภาพพ่อเองที่ได้สติก็รีบยกมือไหว้กลับเช่นกัน

"สวัสดีครับ..ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เจอคุณนาวินที่นี่"พ่อถามคุณนาวินอย่างแปลกใจผมเองก็แปลกใจไม่แพ้กันว่าคุณนาวินมาโผล่อยู่ที่นี่ได้ไงในเมื่ออีกฝ่ายเพิ่งจะบินไปเคลียงานที่ต่างประเทศเมื่อเช้านี้เองไม่ใช่หรอ?

"พอดีว่างานที่นู่นเรียบร้อยแล้วหน่ะครับผมเลยไม่ต้องไปแล้ว"คุณนาวินตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มๆก่อนจะแพลนสายตามามองที่ผม

"นี่ลูกชายคุณคิงหรอครับ"คุณนาวินเอ่ยถามพ่อผม..

"ครับ..นี่คีย์ตะวันลูกชายคนเล็กของผมเองครับ"เมื่อพ่อกล่าวจบผมก็ยกมือขึ้นไหว้คุณนาวินทันที

"สวัสดีครับผมคีย์ตะวันเรียกคีย์เฉยๆก็ได้ครับ"ผมบอกกับอีกฝ่ายอย่างยิ้มๆส่วนคุณนาวินเองก็ส่งยิ้มกลับมาให้ผมเช่นนกัน

"ผมนาวินเรียกวินเฉยๆก็ได้ครับ...ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"

"ครับ..ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน"

"ถ้าเกิดว่าคุณทั้งสองคนไม่ว่าอะไรผมอยากจะชวนไปที่ห้องแลปของผมจะได้รึเปล่าครับ?"ผมหันไปมองหน้าพ่ออย่างขอความคิดเห็นพ่อครุ่นคิดอยู่แปปนึงก่อนจะหันหน้ามาพยักหน้าให้ผมหนึ่งที

"ถ้ามันไม่เป็นการรบกวน..พวกผมไปก็ได้ครับ"คุณนาวินยิ้มให้ผมและพ่ออย่างดีใจก่อนจะเอ่ยปากตกลงกันว่าเมื่องานจบก็จะไปที่ห้องแล็ปของคุณนาวินทันที

ในระหว่างที่พูดคุยกันผมก็ลอบสังเกตุคุณนาวินไปในตัว
คุณนาวินเป็นผู้ชายคนนึงที่จัดว่าหล่อมากคนนึงเลยครับเนื่องด้วยอีกฝ่ายเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษความสูงราวๆ185ได้นิสัยก็จัดว่าดีเลยทีเดียวเขาดูเป็นมิตรกับคนอื่นมากเลยคุยด้วยแล้วรู้สึกดีนะครับเผลอๆแกออกจะเป็นคนร่าเริงเสียมากกว่าเห็นได้จากเมื่อกี้นี้ที่คุยเรื่องห้องแล็ปของอีกฝ่ายคุณนาวินเล่าว่าตอนนี้ตนเองกำลังสร้างสิ่งๆหนึ่งขึ้นมาซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกันเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมบอกเอาแต่บอกว่าไปถึงก็รู้เองครับ..

แหม่..พูดแบบนี้เอาส้ะต่อมเสือกของผมกระตุกไม่หยุดเลยล่ะครับ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น